“กาแฟ” กลายเป็นเครื่องดื่มที่รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าเราเดินทางไปที่ไหนก็จะเจอ Coffee Cafe อยู่บ่อยๆ แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อก็ยังมีกาแฟสดขาย ซึ่งกาแฟนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจาก เมล็ดกาแฟคั่ว ให้รสชาติที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่สายพันธุ์ ก่อนจะมาเป็นกาแฟให้เราได้ดื่มกันนั้น ต้องผ่านกระบวนการนำเมล็ดกาแฟมาคั่วและบด ฉะนั้น “เครื่องบดเมล็ดกาแฟ” จึงมีความสำคัญ
สำหรับ เครื่องบดเมล็ดกาแฟ มีอยู่หลากหลายแบรนด์ตามท้องตลาด แต่วิธีการเลือกว่ายี่ห้อไหนดี อาจจะเป็นคำถามที่ยากเกินไปจนทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อไม่ได้สักที มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- การใช้งาน ปริมาณในการใช้งานของคุณ ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่า ต้องใช้บดเมล็ดกาแฟปริมาณเท่าไหร่
- ปรับระดับความละเอียดของเมล็ดกาแฟ เครื่องบดเมล็ดกาแฟ ในบางรุ่นจะสามารถเลือกปรับระดับความละเอียดของเมล็ดกาแฟได้นั้นเอง ซึ่งความละเอียดของเมล็ดกาแฟ จะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟด้วยเช่นกัน
- ราคา แน่นอนว่าเรื่องของราคาเป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
แนะนำเครื่องบดเมล็ดกาแฟ 5 อันดับ
1. FELLOW Ode Brew Grinder
เครื่องบดเมล็ดกาแฟดีไซน์สไตล์มินิมอลโมเดิร์น เบอร์บด 11 เบอร์ และปรับความละเอียดได้ 31 แบบ รังสรรค์กาแฟได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ Pour-over, French press, Cold brew และอื่นๆ นอกจากเรื่องของฟังก์ชั่นที่มีหลากหลายความสามารถแล้ว เครื่องนี้ยังช่วยเก็บรักษากลิ่นของกาแฟไว้ได้นาน ไร้กลิ่นอับ ทำให้คุณได้รับรสและกลิ่นขอกาแฟแบบสม่ำเสมอทุกแก้ว
เครื่องบดกาแฟ FELLOW Ode Brew Grinder (12,990 บาท)
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น
2. DE’LONGHI Dedica KG521.M
เครื่องบดกาแฟที่ทำมาจากโลหะอย่างดี โถเมล็ดกาแฟมีความจุ 350 กรัม และสามารถบรรจุผงกาแฟได้ 170 กรัม สะดวกสบายด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 2.1 นิ้ว เพื่อปรับความเข้มข้นของกาแฟได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ยังปรับระดับความละเอียดของผงกาแฟได้ถึง 18 ระดับ เหมาะสำหรับกาแฟทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเอสเพรสโซ กาแฟดริป หรือเฟรนซ์เพรส เรียกได้ว่ามีเครื่องนี้ก็คุ้มค่าอย่างแน่นอน
เครื่องบดกาแฟ DE’LONGHI Dedica KG521.M (12,000 บาท)
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น
3. DE’LONGHI KG89
เครื่องนี้สามารถจุเมล็ดกาแฟได้ 120 กรัม มาพร้อมตัวเลือกหรือการปรับระดับความละเอียดของกาแฟได้ เริ่มตั้งแต่ละเอียด ปานกลาง และหยาบ ทั้งนี้เจ้าเครื่องนี้ยังสามารถรักษากลิ่นของกาแฟเอาไว้ได้ดี ด้วยระบบใบมีดบดแบบใบจานสองใบ ซึ่งทำให้ไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป ดีไซน์โถเก็บผงกาแฟแบบใบและยังสามารถถอดออกมาใช้งาน หรือทำความสะอาดได้สะดวก
เครื่องบดกาแฟ DE’LONGHI KG89 (3,600 บาท)
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น
4. DE’LONGHI Coffee Grinder KG200
ใครที่อยากทดลองใช้หรือมีความต้องการบดกาแฟทีละน้อย แนะนำ DE’LONGHI Coffee Grinder KG200 ที่มีความจุเมล็ดกาแฟ 90 กรัม หรือสามารถบดเมล็ดกาแฟได้สูงสุด 12 ถ้วย มาพร้อมกับใบมีดสแตนเลสอย่างดี เครื่องนี้ใช้วิธีการกดเพื่อบดเมล็ดกาแฟ และสามารถถอดโถออกมาทำความสะอาดได้ หากใครอยู่คนเดียวหรืออยู่คอนโดที่พื้นที่จำกัด เราก็ขอแนะนำรุ่นนี้เพราะมีขนาดและราคาที่น่าคบหา
เครื่องบดกาแฟ DE’LONGHI Coffee Grinder KG200 (1,960 บาท)
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น
5. HARIO Ceramic Coffee Mill Skerton MSCS-2DTB
แน่นอนว่ารุ่นนี้ต้องเป็นรุ่นมือบดอย่างแน่นอน หรือที่เรียกอีกอย่างว่าที่บดกาแฟแบบมือหมุน จากแบรนด์ HARIO เครื่องนี้มีความจุอยู่ที่ 100 กรัม ตัวเฟืองบดจะทำมาจากเซรามิก สามารถปรับความละเอียดของผงกาแฟได้ตามต้องการ ข้อดีของที่บดเมล็ดกาแฟแบบมือหมุน คือพกพาสะดวก สามารถพกไปไหนก็ได้ จะออกทริปแคมป์ปิ้งก็ลุยได้อย่างสบาย
เครื่องบดกาแฟ HARIO Ceramic Coffee Mill Skerton MSCS-2DTB (1,791 บาท)
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น
